10อันดับการเปลี่ยนแปลงของโลกที่จะเกิดขึ้นเพราะเทคโนโลยีในปี2025
1)โรคสมองเสื่อมจะลดลง
จากการที่มีความเข้าใจเกี่ยวกับกลุ่มยีนของมนุษย์และการกลายพันธุ์มากขึ้น
ในอนาคตแพทย์และนักวิทยาศาสตร์จะสามารถตรวจพบและป้องกัน
โรคภัยเที่เกี่ยวกับสมองดังเช่น โรคสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์ได้มากกว่าเดิม จนถึงในตอนนี้นักวิทยาศาตร์ก็ได้สามารถระบุชนิดของโครโมโซมที่ทำให้เกิดรูปแบบต่างๆของโรคสมองเสื่อมบ้างแล้ว
ซึ่งโครโมโซมที่ถูกกล่าวถึงบ่อยๆ ก็คือโครโมโซมที่รู้จักในชื่อ 9P ซึ่งมีความเชื่อมโยงเกี่ยวกับโรคสมองเสื่อม
2)โรคเบาหวานชนิดที่1จะถูกป้องกันได้
จากรายงานคาดการณ์ไว้ว่าโรคเบาหวานชนิดที่1และ2 รวมไปถึงโรคที่เกี่ยวกับระบบการเผาผลาญอื่นๆเช่น
โรคกล้ามเนื้อเสื่อม จะสามารถถูกป้องกันได้ในปี2025 นั่นก็เพราะว่านักวิทยาศาสตร์จะสามารถพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับการจัดการกลุ่มยีนซึ่งจะสามารถทำให้ซ่อมแซมและแก้ไขดีเอ็นเอในตัวของมนุษย์ได้
3 การขาดแคลนอาหารและความผันผวนของราคาอาหารจะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป
ในปี2025 ชาวนาจะสามารถปลูกพืชดัดแปลงพันธุกรรมในที่ร่มได้อย่างปลอดภัย
โดยเป็นผลมาจาก การดัดแปลงดีเอ็นเอ และการเทคโนโลยีทางด้านภาพและแสง
ซึ่งจะทำให้พืชมีความไวต่อแสงมากขึ้น
รวมถึงผลผลิตที่ออกมาก็จะมีความต้านทานโรคและจำนวนที่มากขึ้น
โดยที่สิ่งต่างๆเหล่านี้จะลดความเสี่ยงของความล้มเหลวและเพิ่มความอุดมสมบูรณ์
4)ทุกสิ่งทุกอย่างจะเชื่อมต่อกัน
10ปีต่อจากนี้ ระบบสื่อสารไร้สายหรือที่เรียกว่า ไวเลส คอมมิวนิเคชั่น
จะเข้ามาครอบงำชีวิตของแต่ละคน ทั้งบ้าน รถยนตร์และเครื่องใช้ต่างๆจะสามารถเชื่อมต่อกันได้หมด
โดย
5)บอกลากับขวดพลาสติก
วัสดุที่ใช้ห่อหุ้มสินค้าจะทำมาจากเซลลูโลสที่มีคุณสมบัติคล้ายกับพลาสติกแต่ทำมาจากซากของพืชแทน
ดังนั้นวัสดุเหล่านั้นจึงสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติและจะส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าถุงพลาสติดที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้
6)เครื่องบินที่บินโดยใช้กระแสไฟฟ้า
รถที่สามารถเคลื่อนที่โดยใช้กระแสไฟฟ้า ยังอาจจะเป็นแค่สิ่งที่อยู่ในจินตนาการของคนเราเท่านั้น
แต่ในอีก10ปีข้างหน้าด้วยวิศวกรรมการบินและแบตเตอรี่ที่ใช้เทคโนโลยีแบบใหม่จะสามารถทำให้เกิดวิวัฒนาการของเครื่องบินที่ใช้กระแสไฟฟ้าขึ้น
โดยที่จะขับเคลื่อนโดยใช้พลังงานของลิเทียมไออนแบตเตอรี่ที่ถูกพัฒนาและมอเตอร์ซึ่งถูกเสริมด้วยเทคโนโลยีที่มีตัวนำกระแสไฟฟ้ายิ่งยวดหรือ
อีกชื่อคือ ซูเปอร์คอนดักติ้ง เทคโนโลยี
7)การรักษาโรคมะเร็งจะทำได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น
สารเคมีที่ใช้รักษาโรคมะเร็งในปัจจุบันสามารถทำให้เกิดอันตรายและผลข้างเคียงต่อผู้ป่วยได้
แต่ในปี2025 ยารักษาโรคมะเร็งจะทำงานได้อย่างตรงจุดกว่าเดิมจึงส่งผลให้มีผลข้างเคียงที่ตามมาลดน้อยลง
โดนที่ยารักษานี้รวมกับความรู้ที่มีเกี่ยวกับการกลายพันธุ์ที่มากขึ้นจงส่งผลให้การรักษาโรคมะเร็งจะมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าปัจจุบัน
8)แผนที่พันธุกรรมมนุษย์จะกลายเป็นเรื่องปกติ
จากความก้าวหน้าของการกระบวนการวิเคราะห์เซลล์และนาโนเทคโนโลยี
การทำแผนที่พันธุกรรมมนุษย์จะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในควบคุมความเสี่ยงที่จะเป็นโรคต่างๆ
ไม่ใช่เพียงแค่เด็กทารกเท่านั้นที่จะได้รับการทำแผนที่พันธุกรรมทันทีเมื่อเกิด
แต่คนทั่วๆไปก็จะสามารถทำได้เช่นกันซึ่งทำให้รู้ทันความเสี่ยงที่เพิ่มมากขึ้นหรือลักษณะที่ปรากฏเบื้องต้นของโรคต่างๆ
9)พลังงานแสงอาทิตย์จะมีบทบาทเป็นอย่างมาก
คาดการณ์ไว้ว่าพลังงานจะแสงอาทิตย์จะกลายเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญที่สุดบนโลกใบนี้
โดย เซลล์แสงอาทิตย์ชนิดสีย้อมไวแสง หรือ
ไดเซนทิไซส์โซลาร์เซลล์ ที่เพิ่มประสิทธิภาพในการเปลี่ยนรูปแบบของพลังงาน
และรวมไปถึงกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงซึ่งจะทำให้พลังงานแสงอาทิตย์มีใช้ในยามที่ต้องการ
ถือได้ว่าเป็นสาเหตุสำคัญในการเปลี่ยนมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์
10)การเคลื่อนย้ายในพริบตาจะถูกทดสอบจริง
ความคิดที่ว่าสิ่งของหรือคนสามารถเคลื่อนย้ายได้ในชั่วพริบตาไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันอย่างที่ใครหลายคนคิด
จากการวิจัยล่าสุดที่เกี่ยวข้องกับอนุภาคฮิกส์จะสามารถช่วยให้เกิดการทดลองการเคลื่อนย้ายในพริบตาได้
อย่างไรก็ตามเราคงจะไม่สามารถที่จะเคลื่อนย้ายในพริบตาได้ในปี2025
หากแต่เป็นการเริ่มต้นการทดลองเบื้องต้นเท่านั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น